ขั้นตอนและวิธีการทำร่มบ่อสร้าง


วิธีทำโครงร่ม
โครงร่มประกอบด้วยส่วนต่างๆดังนี้
-  หัว ทำจากไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้ตีนเป็น,ไม้ส้มเห็ด,ไม้ตุ้มคำ และไม้แก
-  ตุ้ม ทำจากไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้ตีนเป็ด,ไม้ส้มเห็ด,ไม้ตุ้มคำ และไม้แก
-  ค้ำ ทำจาก ไม้ไผ่ตง เพราะเหนียวและทนทาน
-  ซี่กลอน ทำจากไม้ไผ่ตง เพราเหนียวและทนทาน
-  คันถือ ทำจาก ไม้ไผ่เล่มเล็ก หรือไม้เนื้ออ่อนก็ได้
-  ม้า(สลัก) ทำจากสำหรับร่มเล็กทำด้วยสปริงเหล็ก ส่วนร่มใหญ่ทำด้วยไม้ไผ่เหลา
-  ปลอกลาน ทำจาก ใบลาน ทำหน้าที่เป็นตัวเคลื่อนขึ้น-ลงเวลากางหรือหุบร่ม

1.การทำหัวร่ม ตุ้มร่ม นำไม้สำหรับทำหัวร่ม และ ตุ้มร่ม ขนาดโตวัดเส้นผ่า ศูนย์กลางตามขนาดร่มเป็นนิ้วนำเอามาตัดท่อนๆความเท่ากับขนาดของหัวร่มและ ตุ่มร่มที่ต้องการแล้วเจาะรูตรงกลางขนาดพอที่จะใส่คันร่มชนิดนั้นๆ ได้แล้วจึงเอาไปกลึงเป็นหัวร่มรือตุ่มร่มตามแบบที่ได้กำหนดไว้ 
2.การทำซี่ร่ม หลังจากได้ไม้ไผ่มาแล้วก็นำเอามาตัดออกเป็นท่อนๆถ้าเป็นไม้ไผ่ที่มีปล้องยาว     ก็ตัดระหว่างข้อ แต่ถ้าเป็นไม้ปล้องสั้นก็ตัดให้ข้อไม้อยู่ตรงกลางความยาวของท่อนไม้ที่ตัด เท่ากับขนาดของร่มที่จะทำ เช่น ทำร่มขนาด 20นิ้ว ก็ตัดไม้ไผ่ยาว 20นิ้ว เป็นต้น เมื่อตัดไม้ไผ่เป็นท่อนยาวแล้วก็ใช้มีดขูดผิวไม้ออกให้หมดแล้วทำเครื่องหมาย สำหรับเจาะรูไว้ โดยการใช้ตะปูตอกบนไม้ ขอให้ปลายตะปูโผล่ออกมานิดหนึ่งแล้วใช้ไม้ขอขีดรอบปล้องไม้ตรงกับระยะที่ ต้องการเจาะรูแล้วจึงผ่าไม้ออกเป็น 4ชิ้น แต่ละชิ้นขนาดเท่ากันใช้มีดตรงท้องตามระยะที่ได้กะไว้ให้เสมอกันทุกชิ้น ให้ทางปลายซี่เรียว และใช้มีดจักเป็นซี่ๆตรงหัวไม้ ความหนาแต่ละซี่ประมาณ 1/8 นิ้ว แล้วใช้มือฉีกออกเป็นซี่ๆ ถ้าฉีกไม่ออกก็ใช้มีดผ่าออกไปตรงๆ แล้วเหลาทั้งสองข้างให้ เรียบและปาดตรงหัวซี่ทั้ง 2 ให้ บางพอดีที่จะใส่เข้าร่องหัวร่มได้แล้วซี่ตรงท้องนิดนึงเพื่อให้มุมมนแล้ว เหลาตรงท้องซึ่งให้ ปลายซี่ร่มเรียวเท่ากันทุกๆซี่ ใช้มีดปลายแหลมแทงลงไปตรงรอยปาดท้องซี่ ให้ปลายมีดทะลุออกด้านหลังซึ่งตรงกลางแล้ว ผ่าตรงออกไปตามยาวประมาณ 2 นิ้ว เพือให้ปลายซี่สั้นสอดเข้าไปเวลาร้อยคือ ประติดกับซี่สั้น ส่วนการทำซี่ร่มสั้นนั้น ตัดไม้ยาวตามขนาดที่ต้องการแล้วเกลาเอาผิวไม้ออก แล้วทำเครื่องหมายสำหรับเจาะรู แล้ว จักเป็นซี่ๆ เหลาสองข้างให้เรียบร้อย ปลายซึ่งข้างหนึ่งปาดท้องซี่ให้เป็นมุมแล้วเหลา 2 ข้าง ให้บางที่จะสอดเข้ารองตุ่มร่มได้ ส่วนอีกข้างหนึ่งเหลาปลายให้มน และเหลาตรงปลาย 2 ข้างให้บางพอสมควร
3.การเจาะรูซี่ร่มสั้นและซี่ร่มยาว ใช้เหล็กแหลมชนิดปลายเป็นสามเหลี่ยมเจาะโดยการหมุนไปหมุนมาหรือ จะใช้เหล็กแหลมเผาไฟให้ร้อนแล้วเจาะรูก็ได้ (ถ้าไม่มีเครื่องเจาะ) แต่ถ้ามีเครื่องเจาะซี่ร่มโดยเฉพาะ ก็ใช้เครื่องเจาะเพราะจะได้เร็ว
4.การมัดหัวร่มและตุ่มร่ม นำเอาซี่ร่มยาวและซี่ร่มสั้นที่เจาะรูแล้วร้อยติดกันเรียงเป็นตับโดยร้อยเอา ทางหลัง ซี่ขึ้นข้างบนทุกซี่ แล้วเอาหัวร่มที่ผ่าร่องซี่แล้วมาปาดซี่ออกเศีย 1 ช่อง เพื่อสำหรับจะได้ไว้ผูกปมเชือก เอาซี่ร่มที่ร้อยแล้วใส่ลงไป ในหัวร่มช่องละซี่ แล้วดึงเชือกให้ตึงแล้วใส่ต่อไปอีกจนครบทุกช่อง แล้วดึงปลายเชือกทั้ง 2 ข้างให้ตึง เอาปลายเชือกผูกให้แน่น แล้วตัดเชือกที่ผูกออกให้เหลือปลายเชือกไว้ประมาณข้างละ 1 นิ้ว การมัดหัวร่มและตุ้มร่มทำด้วยวิธีเดียวกัน
5.การผ่านโค้งร่ม คือ ขั้นตอนการพันเชือกบริเวณปลายซี่ร่มยาม โดยนำโครงร่มที่ผ่านการร้อยดือมาใส่คันร่มชั่วคราว จากนั้นจึงใสสลักไม้ตรงหัวร่มให้แน่น กางโครงร่มออกให้ซี่ร่มโค้งลงพอดี ผูกปลายด้ายที่เหลือจากการร้อยซี่ร่มให้แน่น พยายามจัดช่องว่างระหว่างซี่ร่มให้เท่ากัน ใช้ด้ายพันที่ปลายซี่ยาม พันวนจนครบทุกซี่และพันขึ้นรอบใหม่จนครบ 3 รอบ
6.การทำกระดาษปิดโครงร่ม นำ โครงร่มที่ผ่านขั้นตอนการผ่านโค้งร่มแล้วปักลงบนหลักไม้ไผ่ เพื่อที่จะหมุนติดกระดาษได้ง่าย จากนั้นทาน้ำมันตะโกหรือน้ำยามมะค่าลงตรงหลังซี่ร่มยาวให้ทั่ว ติดกระดาษสาที่ตัดเป็นรูปวงกลมทาบลงไปบนโครง แล้วทาน้ำมันตะโกหรือน้ำยางมค่าให้ชุ่ม ระวังอย่าให้เปียกแฉะจนเกินไป วางกระดาษสา อีกแผ่นหนึ่งที่ตัดเป็นรูปวงกลมเตรียมไว้แล้วติดทับลงไปอีกชั้นหนึ่ง กระดาษจะติดเป็นเนื้อเดียวกัน หากกระดาษสา 2 แผ่น ยังหนาไม่พอก็ติดทับลงไปอีกแผ่นก็ได้โดยใช้วิธีเดียวกัน เมื่อติดกระดาษสาทับกันจนได้ความหนาตามต้องการแล้ว ก็นำกระดาษสามาปิดทับเส้นด้ายที่พันรอบซี่ร่มยาวให้เรียบร้อยโดยทาน้ำยางลง ไปด้วย จากนั้นจึงค่อยนำไปผึ่งแดดตากลมจนแห้งสนิท แล้วหุบร่ม
7.การทาน้ำมันยาง โดย กางร่มออกอีกครั้งแล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันทาจนทั่วกระดาษปิดร่มทั้งด้านในและ ด้านนอก ควรระวังไม่ให้น้ำมันที่ทานั้นชุ่มโชกจนเกินไป เพราะจะทำให้พื้นร่มไม่สวย เพียงทาให้ทั่วกระดาษก็พอ เสร็จแล้วนำไปตากแดดทิ้งไว้อีก 3 ชั่วโมง เมื่อตากจนแห้งแล้วก็หุบร่มเพื่อเตรียมใส่คันร่มต่อไป การทาน้ำมันนี้ก็เพื่อให้ร่มสามารถกันน้ำได้
8.การทำคันร่ม คัน ร่มจะมีขนาดยาวกว่าซี่ร่มยาวเล็กน้อย กล่าวคือเว้นให้ยาวกว่าซี่ร่มยาวให้มือสามารถจับถือได้พอดี หรืออาจยาวกว่านั้นอีกสักเล็กน้อยก็ได้ คันร่มส่วนใหญ่ใช้ไม้ไผ่ที่มีลำต้นขนาดเล็ก หรืออาจใช้ไม้เนื้ออ่อนก็ได้ โดยที่คันร่มนี้จะต้องเจาะรูสำหรับใส่ลวดสลักเพื่อใช้ยึดซี่ร่มไว้ด้วย ซึ่งลวดสลักนี้จะต้องอยู่ในตำแหน่งระยะที่ตรงกับตุ้มร่มเมื่อกางร่ม
9.การปิดหัวร่ม วัสดุ ที่นำมาปิดหัวร่มอาจใช้ใบลาน ใบตาล หรือกระดาษที่หนาสักหน่อย โดยนำมาตัดให้มีลักษณะเป็นปลอกไว้ที่หัวร่ม ตัดกระดาษสาเป็นริ้วยาวพันรอบหัวร่ม  3-4 รอบ ทาน้ำมันตะโกทับแล้วพันกระดาษสาทับอีกครั้ง แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง เสร็จแล้วทาน้ำมันมะเดื่อตรงหัวร่มเพื่อให้กระดาษสาที่หุ้มอยู่มีความหนา เหนียวทนทาน